วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ อ่านนิทานภาษาอังกฤษ

บล็อกนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ รวมรวมข้อมูลความรู้ต่างๆเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานโครงสร้างประโยค Grammar หลักการใช้ Tense ต่างๆ และอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับผู้เริ่มต้นขึ้นไป บางคนยังไม่รู้ว่าควรเริ่มยังไงก็สามารถติดตามบล็อกนี้ได้นะครับ
เนื้อหาในบล็อกจะเน้นไปที่การฝึกอ่านนิทานภาษาอังกฤษ เพราะคำศัพท์ง่าย ประโยคไม่ซับซ้อน อ่านแล้วเพลิดเพลินพร้อมทั้งได้ความรู้ แต่ก่อนอื่นต้องเรียนรู้เรื่อง Tense ต่างๆเสียก่อน ได้แก่ Present Tense (ปัจจุบัน), Past Tense (อดีต), Future Tense (อนาคต) เมื่อเริ่มเข้าใจแล้วก็ไปลุยทดสอบความรู้กับนิทานกันเลยครับ
นิทานทุกเรื่องจะมีการแปลความหมายของคำศัพท์ก่อน เพื่อความสะดวกและต่อเนื่องในการฝึกอ่าน มีเนื้อเรื่องภาษาอังกฤษ และคำแปลภาษาไทยอยู่ด้านล่างจะหลีกเลี่ยงการแปลความหมายแทรกไว้ระหว่างเนื้อเรื่องเพื่อป้องกันปัญหาการลักไก่(แอบดู) วิธีการก็คือให้พยายามดูให้เข้าใจว่ารูปประโยคอยู่ใน Tense ไหน โครงสร้างของภาษาอังกฤษและภาษาไทยบางประโยคจะไม่เหมือนกันเมื่อรู้สึกว่าแปลออกมาแล้วดูแข็งทื่อ เก้งก้าง อ่านแล้วงง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ให้ทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้พูดต้องการจะสื่อจากนั้นค่อยแปลความหมายจัดเรียงคำใหม่ให้สละสลวยตามภาษาของเรา
            เรื่องคำศัพท์นี่ตามสะดวกเลยครับ จะอ่านและจำคำศัพท์ไปตามเนื้อเรื่อง หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือจำคำศัพท์ให้ได้ก่อนแล้วค่อยแปลไปตามเนื้อเรื่องซึ่งผมถนัดอย่างหลังมากกว่า เพราะเหมือนกับเรามีสิ่งที่เรารู้อยู่ก่อน แล้วเห็นการนำไปใช้จริงเลยทำให้เข้าใจและจำคำศัพท์ได้แม่นยำขึ้น

ความรู้พื้นฐาน





แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)

ฝึกอังกฤษ เรื่อง เด็กกับกบ

นิทานอีสปภาษาอังกฤษสำหรับฝึกอังกฤษวันนี้ เนื้อเรื่องอาจจะสั้นหน่อย เพราะช่วงนี้กำลังยุ่งๆ พอมีเวลาว่างก็แอบฝึกอังกฤษด้วยการดูหนังเพลินมากครับขอบอก หลังจากได้ศัพท์จากการอ่านและสกิลการแปลมาประมาณนึง ผมก็เริ่มฝึกฟังการออกเสียง ฟังสำเนียงของจริงผ่านภาพยนต์การ์ตูนอนิเมชันสนุกๆ ที่เลือกฝึกจากภาพยนต์การ์ตูนอนิเมชันก็เพราะเค้าทำมาให้เด็กดูครับ! ไม่ได้จะแอ๊บเด็กนะแต่ศัพท์เค้าไม่ยากไงแถมออกเสียงชัดเจนอีกต่างหาก ใครสนใจก็ลองดูได้นะครับแนะนำให้โหลดโปรแกรมที่สามารถเปิดทั้งซับไทยและซับอังกฤษได้พร้อมๆกัน ไม่ต้องเปิดแบบรวดเดียวจบถ้าไม่ทันก็ค่อยๆฟังทีละประโยค เทคนิค pause & play ที่ผมใช้ทำให้ภาพยนต์หนึ่งเรื่องกลายเป็นหนังซีรี่ย์ขนาดย่อมๆ กว่าจะจบก็ดูกันเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว (ฮา)
นิทานภาษาอังกฤษของเราวันนี้เกี่ยวกับเรื่องของกีฬาครับ “กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ฮ่า..ไฮ่..ฮ่า..ไฮ่!” ฮ่าๆๆ เพลงฮิตติดหูอีกเพลงในสมัยวัยละอ่อน กีฬาคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนานเป็นประโยชน์กับทั้งร่างกายและจิตใจ ว่ากันว่าผู้ใดที่ชอบเล่นกีฬาออกกำลังกายนอกจากจะมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แล้วยังส่งผลถึงจิตใจช่วยให้ผ่อนคลายจากความเครียดและที่สำคัญยังทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น พูดง่ายๆคือทำให้แข็งแรงและฉลาด บร๊ะ! สมกับเป็นยาวิเศษอย่างที่เค้าว่าจริงๆ แต่สำหรับใครที่ชอบทำอะไรแผลงๆเล่นเป็นกีฬาเพื่อความสนุกจนบางทีลืมนึกถึงผู้อื่น อยากให้ลองอ่านนิทานเรื่องนี้ดูครับ
ฝึกอังกฤษเรียนรู้คำศัพท์ด้วยการอ่านนิทานอีสปภาษาอังกฤษเรื่อง“เด็กกับกบ” เป็นเรื่องของกลุ่มเด็กๆทีมีเรื่องกับกบ!!? เกมกีฬาที่พวกเขาสร้างขึ้นจะส่งผลกระทบยังไงกับกบที่พวกเขาเจอบ้าง ติดตามเรื่องราวกันได้ใน “The Boys And The Frogs”


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice



ศัพท์อังกฤษ

Boy = เด็กผู้ชาย
Frog = กบ
Pond = สระน้ำ
Number = จำนวน
Pelt = ระดมยิง
Stone = ก้อนหิน
Several = หลาย (มากกว่าสอง)
Lift = ยก
Cried out = ร้องตะโกน (กริยาช่อง2ของ Cry out)
Pray = สวดอ้อนวอน
Sport = กีฬา
Death = ความตาย
Trouble = ความเดือดร้อน


แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Boys And The Frogs
Aesop’s Fable

Some boys, playing near a pond, saw a number of Frogs in the water, and began to pelt them with stones. They killed several of them, when one of the Frogs, lifting his head out of the water, cried out: "Pray stop, my boys; what is sport to you is death to us."


Moral of Aesops Fable: "What we do in sport often makes great trouble for others."



แปลไทย
โดย Aonaen

มีเด็กกลุ่มหนึ่ง กำลังเล่นอยู่ใกล้ๆสระน้ำ พวกเด็กๆมองเห็นกบจำนวนหนึ่งอยู่ในน้ำ และก็เริ่มโยนก้อนหินใส่กบเหล่านั้น พวกเด็กๆได้ฆ่ากบไปหลายตัว ในขณะนั้นเองก็มีกบตัวหนึ่งโผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ ร้องตะโกนออกมาว่า “ขอร้องหยุดเถอะ พวกเด็กๆของข้า สิ่งที่พวกเจ้าทำคือกีฬาของพวกเจ้าแต่สำหรับพวกเรามันคือความตาย”


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “บางสิ่งเราทำเป็นเกมกีฬา บ่อยครั้งมักสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น”







วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ เรื่อง กบกับวัว

สวัสดีกันอีกครั้งในวันฝนตก บรรยากาศแบบนี้แน่นอนว่าไม่มีอะไรจะเหมาะเท่ากับการเล่าเรื่องกบๆ (frog) ส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบสภาพอากาศชื้นๆแบบนี้เลย จะออกไปข้างนอกก็ลำบาก ไม่ว่าทางเดิน(footpath) ท้องถนน(road) หรือแม้กระทั่งสวนสาธารณะ(park)ที่เราไปออกกำลังกาย ไปทำกิจกรรม(activity)สนุกๆกับเพื่อนๆ ต้องเปียกปอน(wet)เฉอะแฉะไปซะทุกมุม ไม่เหมาะกับ Life Style ของนักกิจกรรมนอกบ้านอย่างผมเลย (ฮา) อาจเป็นผลสืบเนื่องมากจากเรื่องราวฝังใจเมื่อครั้งยังเด็กที่ผมออกไปปั่นจักรยานเล่นหลังจากที่รอฝนหยุดตกมาเกือบทั้งวัน วันนั้นผมจำได้ว่าเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ชาวนาพาฝูงควาย(buffalo)กลับเข้าบ้านกันหมดแล้ว มีเพียงถนนโล่งๆ ไม่มีคน ไม่มีรถ บรรยากาศระงมไปด้วยเสียงของกบหลายสิบตัวที่ซ่อนอยู่ตามโพรงหญ้า ด้วยจินตนาการอันล้ำเลิศเสียงกบเหล่านั้นทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าผมกำลังอยู่ในการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลกท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนนับพันที่กำลังจดจ้องพร้อมทำให้กำลังใจผมอยู่ ผมเกิดความฮึกเหิมขึ้นในฉับพลัน พลังเชียร์แปลงมาเป็นพลังปั่น ผมเร่งความเร็วขึ้นดุจสายฟ้าที่กำลังแล่บ แต่พื้นถนนที่เปียกแฉะไม่สามารถรองรับความเร็วของจักรยานแชมป์เปี้ยนของผมได้ทำให้ผมเสียหลักและลงไปกองกับพื้น ที่เจ็บไม่ใช่ร่างกายแต่มันเจ็บใจมากกว่าเมื่อรู้ตัวว่าลงไปฟุบบนกองขี้ควายเต็มๆ! (ฮา) นึกแล้วก็ขำตัวเองทั้งเนื้อทั้งตัวเปรอะเปื้อนสกปรก(dirty)ไปหมด ต้องล้างทุกซอกทุกมุม นับเป็นวันที่ผมอาบน้ำสะอาดที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ (ฮา)
ฝึกอังกฤษวันนี้เสนอนิทานที่หลายๆคนอาจเคยได้ยินได้ฟังมากันบ้างแล้ว ผมเองก็อ่านจบมาหลายรอบเหมือนกันแต่ครั้งนี้ลองมาอ่านในเวอร์ชันภาษาอังกฤษบ้างกับนิทานเรื่อง “กบกับวัว” เป็นเรื่องราวของเจ้ากบจอมอวดดีที่คิดว่าตัวเองสามารถทำในสิ่งที่สุดยอดได้ สิ่งที่สุดยอดที่ว่าคืออะไร และผลจะเป็นเช่นไรต้องติดตามกันในนิทานอีสปภาษาอังกฤษเรื่อง “The Frog And The Ox”


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice



ศัพท์อังกฤษ

Frog = กบ
Ox = วัว
Side = ข้าง
Pool = สระน้ำ
Terrible = น่ากลัว
Monster = สัตว์ประหลาด
Mountain = ภูเขา
Horn = เขา
Tail = หาง
Hoof = กีบ
Divide = แบ่งแยก
Tush = เบื่อหน่าย, แสดงความเบื่อหน่าย, ไม่เอาน่า
Farmer = ชาวนา
Either = เช่นกัน
A little bit = นิดหน่อย
Easily = อย่างง่าย
Quite = เยอะ
Broad = กว้างใหญ่
Reply = ตอบกลับ
Deep = ลึก
Breath = สูดลมหายใจ
Blew out = พองตัวออก (กริยาช่อง2ของ Blow out)
Swell = เพิ่มขนาด
Burst = แตก, ระเบิด
Moment = ชั่วขณะ
Conceit = ความอวดดี
Lead to = ส่งผลให้
Destruction = ถูกทำลาย

แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Frog And The Ox
Aesop’s Fable

"Oh Father," said a little Frog to the big one sitting by the side of a pool, "I have seen such a terrible monster! It was as big as a mountain, with horns on its head, and a long tail, and it had hoofs divided in two."
 "Tush, child, tush," said the old Frog, "that was only Farmer White's Ox. It isn't so big either; he may be a little bit taller than I, but I could easily make myself quite as broad; just you see." So he blew himself out, and blew himself out, and blew himself out. "Was he as big as this?" asked he.
"Oh, much bigger than that," said the young Frog
 Again the old one blew himself out, and asked the young one if the Ox was as big as that. 
"Bigger, father, bigger," was the reply. 
 So the Frog took a deep breath, and blew and blew and blew, and swelled and swelled and swelled. And then he said: "I'm sure the Ox is not as big as this. But at this moment he burst.


Moral of Aesops Fable: "Self-conceit may lead to self-destruction."



แปลไทย
โดย Aonaen

“คุณพ่อฮะ” เจ้ากบตัวน้อยพูดกับกับเจ้ากบตัวใหญ่ที่กำลังนั่งอยู่ข้างสระน้ำ ผมเห็นสัตว์ประหลาดน่ากลัวมากตัวมันใหญ่อย่างกับภูเขา มีเขาอยู่บนหัว หางยาว แล้วก็มีกีบเท้าแยกออกเป็นสองทางด้วย
“ไม่เอาน่าลูก” พ่อกบพูด “แถวนี้มีแต่ชาวนากับวัวตัวขาวเท่านั้นแหล่ะ แล้วตัวมันก็ไม่ได้ใหญ่ด้วย มันอาจจะสูงกว่าพ่อแค่นิดหน่อย แต่พ่อสามารถทำให้ตัวพ่อขยายใหญ่ขึ้นได้อีกเยอะ ดูนะ” ว่าแล้วเจ้ากบตัวพ่อก็พองตัวออก พองตัวออก แล้วก็พองตัวออก “ตัวมันใหญ่เท่านี้รึเปล่า” พ่อกบถาม
“โอ้ว, ใหญ่กว่านี้อีกเยอะฮะพ่อ” เจ้ากบตัวน้อยพูด
 อีกครั้งกับการพองตัวของเจ้ากบตัวเดิม และถามลูกของมันว่า วัวที่ลูกเห็นตัวใหญ่เท่านั้นหรือเปล่า
“ใหญ่อีกฮะพ่อ ใหญ่กว่านี้อีก” เจ้ากบตัวน้อยตอบกลับ
 เจ้ากบตัวพ่อได้ยินดังนั้นจึงสูดลมหายใจลึก พองตัว พองตัว และพองตัว ขนาดก็เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น แล้วพูดว่า “พ่อแน่ใจแล้วว่าเจ้าวัวที่ลูกเห็นคงตัวไม่ใหญ่เท่านี้แน่” แต่ในขณะนั้นเองพุงของเจ้ากบตัวพ่อก็ระเบิดออก


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ความอวดดีอาจส่งผลเสียต่อตัวเราเอง”







วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ เรื่อง ม้ากับกวาง

“ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว” คำสอนนี้ถือเป็นคำสอนสุดฮิตที่ทุกเพศทุกวัย ทุกรุ่น ทุกเจเนอร์แรชันต้องเคยได้ยิน มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าคำสอนนี้มักจะเป็นจริงเสมอ ยกตัวอย่างเช่น สมัยเด็กๆ(childhood) ผมอาศัยอยู่ในเขตชนบท(countryside)ด้วยชีวิตที่ติดดินอยากกินอะไรก็หาได้ตามป่า(forest)ตามเขา(mountain) มีวันนึงผมออกไปหาปู(crab)กับพี่สาวซึ่งเป็นลูกสาวของคุณป้าข้างบ้าน ปูที่เรากำลังจะไปหาคือปูนาซึ่งตามธรรมชาติแล้วมันจะหลบซ่อนอยู่ในรู เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานนี้ก็คือเสียมและข้อง(รูปร่างคล้ายน้ำเต้าแต่เป็นไม้สานมีเชือกร้อยเป็นสายสะพายมีฝาปิดด้านบน) ในขณะที่พี่สาวกำลังนั่งขุดรูปูอยู่บนพื้นดินที่เฉอะแฉะ ด้วยความซุกซน(naughty)ของผม อยู่ดีๆก็นึกอยากจะแกล้งขึ้นมาก็เลยเอานิ้วมือจิ้มไปที่เอวของพี่สาวกะว่าจะให้สะดุ้งตกใจและเสียหลักลงไปคลุกกับโคลนบนพื้น............ สำเร็จ!พี่สาวสะดุ้งด้วยความตกใจแต่สิ่งที่มันผิดแผนก็คือด้านเสียมในมือพี่สาวพุ่งตรงเข้ามาที่ฟันกระต่ายคู่หน้าของผมเต็มๆความแรงเท่ากับความตกใจส่งผลทำให้ฟันคู่หน้าของผมหายไปครึ่งนึงทันที เป็นไงล่ะ! นี่แหละหนาที่โบราณท่านว่า “ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว” ได้อ่านเรื่องนี้แล้วเด็กๆไม่ควรเอาเยี่ยงอยากนะครับ T-T
มาฝึกอังกฤษกันครับกับผลลัพธ์ของการให้ทุกข์คนอื่น นิทานอีสปภาษาอังกฤษเรื่อง “ม้ากับกวาง” เป็นเรื่องของเจ้าม้าขี้ตืดที่วางแผนจะทำร้ายเจ้ากวางหนุ่มผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เรามาดูกันว่าเจ้าม้าตัวนี้จะได้รับผลเช่นไร จะฟันหักเหมือนกับผมหรือไม่ ติดตามได้ใน “The Horse And The Stag”


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice



ศัพท์อังกฤษ

Horse = ม้า
Stag = กวางตัวผู้
Plain = ที่ราบ
Entirely = ทั้งหมด,โดยสิ้นเชิง
Intrude = บุกรุก
Domain = อาณาเขต
Pasture = ทุ่งเลี้ยงสัตว์
Desire = ปรารถนา
Revenge = แก้แค้น
Stranger = ผู้แปลกหน้า
Request = การขอร้อง
Willing = ซึ่งเต็มใจ
Punish = ทำโทษ
Contrive = ประดิษฐ์
Effectual = ได้ผลตามที่ตั้งใจ
Weapon = อาวุธ
Against = ต่อต้าน
Consent = ยอมรับ
Allow = อนุญาต
Mount = ขึ้นม้า
Obtain = ได้รับ
Enslave = จับไปเป็นทาส
Service = รับใช้
Seek = มองหา.แสวงหา
Injure = ทำร้าย


แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Horse And The Stag
Aesop’s Fable

The Horse had the plain entirely to himself. A Stag intruded into his domain and shared his pasture. The Horse, desiring to revenge himself on the stranger, requested a man, if he were willing, to help him in punishing the Stag. The man replied, that if the Horse would receive a bit in his mouth, and agree to carry him, he would contrive very effectual weapons against the Stag. The Horse consented, and allowed the man to mount him. From that hour he found that, instead of obtaining revenge on the Stag, he had enslaved himself to the service of man.

Moral of Aesops Fable: "He who seeks to injure others often injures only himself."




แปลไทย
โดย Aonaen

ม้าตัวหนึ่งมีทีราบกว้างใหญ่เป็นของตัวเอง มีกวางตัวหนึ่งบุกรุกเข้ามายังอาณาเขตของเจ้าม้าและยังใช้ทุ่งเลี้ยงสัตว์ร่วมกับเจ้าม้าอีกด้วย มันจึงเกิดแรงปรารถนาที่จะแก้แค้นผู้แปลกหน้าที่บังอาจเข้ามาล้วงล้ำอาณาเขต มันจึงไปร้องขอชายผู้หนึ่งซึ่งเต็มใจที่จะช่วยทำโทษเจ้ากวางตัวนั้น ชายผู้นั้นตอบกลับว่าถ้าเจ้าม้ารับปากว่าจะยอมให้เขาขึ้นขี่หลังเขาจะประดิษฐ์อาวุธที่รับรองผลได้เลยว่าจะสามารถต่อต้านเจ้ากวางตัวนั้นได้เป็นที่แน่นอน เจ้าม้ายอมรับและอนุญาตให้ชายผู้นั้นขึ้นขี่หลังของมัน หลังจากชั่วโมงนั้นมันก็พบว่า แทนที่จะได้รับการแก้แค้นกลับกลายเป็นว่ามันถูกทำให้กลายเป็นทาสรับใช้ของชายผู้นั้นแทน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ผู้ที่มุ่งร้ายคนอื่นมักจะเป็นผู้ที่ถูกทำร้ายเสียเอง”







วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ เรื่อง สุนัขจิ้งจอกกับแมว

หลายคนอยากพูดภาษาอังกฤษเป็นพยายามฝึกตัวเองด้วยวิธีต่างๆนานาบ้างก็สำเร็จบ้างก็ไม่สำเร็จ ส่วนใหญ่ที่ไม่สำเร็จคือเกิดความท้อ ผมเชื่อว่าคนที่สำเร็จคือผู้ที่สามารถเอาชนะความท้อของตัวเองได้เพราะฉะนั้นอย่ายอมแพ้ง่ายๆครับ“ท้อได้แต่อย่าถอย”วลีนี้ยังคงใช้ได้กับทุกคนเสมอ การฝึกอังกฤษเราต้องพยายามใช้บ่อยๆ แรกๆอาจจะยากหน่อยแต่พอเริ่มได้ เริ่มเข้าใจแล้วมันจะเริ่มสนุกครับ
ภาษาอังกฤษพอเรารู้จักวิธีการสร้างประโยคแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือคำศัพท์ ยิ่งรู้ศัพท์เยอะยิ่งดี ผมเคยสงสัยว่าเวลาฟังฝรั่งเค้าพูดกันทำไมถึงฟังไม่รู้เรื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสำเนียงแต่อีกส่วนนึงที่ผมคิดว่าสำคัญกว่าคือคำศัพท์ครับ ผมพยายามหาคำศัพท์เพิ่มเติมให้ตัวเองทุกวันพอผมเริ่มรู้ศัพท์มากขึ้น ผมต้องแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ได้คือจากเมื่อก่อนฟังไม่รู้เรื่องเดี๋ยวนี้กลายเป็นเริ่มเข้าใจ หูกระดิก ตามองเห็นคำศัพท์ลอยเป็นคำๆออกมาจากพี่หรั่ง แหม่...แหล่มจริงๆ(ฮา)
วิธีการฝึกคำศัพท์ก็มีเยอะแยะครับ ไม่ว่าจะดูหนังซับอังกฤษ ฟังเพลงภาษาอังกฤษ อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ นิตยสารภาษาอังกฤษ นิทานภาษาอังกฤษ และก็อีกมากหมายหลายวิธี บางคนอาจดีหน่อยฝึกยังไงก็เป็น แต่บางคนฝึกยังไงก็ไม่เข้าหัวซักที ถ้าเป็นกรณีนี้ลองดูครับลองหาวิธีที่ตัวเองชอบที่สุดมาซักอย่าง แล้วฝึกแบบเน้นๆไปเลย เหมือนอย่างนิทานวันนี้ที่ผมเลือกมา เป็นเรื่องของเจ้าสุนัขจิ้งจอกกับเจ้าแมวที่คุยโม้โอ้อวดกันว่ายามมีภัยพวกเขามีวิธีการหนีเอาตัวรอดเจ๋งๆอย่างไร ส่วนวิธีการของใครจะได้ผลดีกว่ากันติดตามได้ในนิทานอังกฤษเรื่อง “The Fox And The Cat”


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice




ศัพท์อังกฤษ

Fox = สุนัขจิ้งจอก
Cat = แมว
Boast = คุยโม้
Clever = เฉลียวฉลาด
Device = อุบาย
Escape = หนี
Enemy = ศัตรู
Trick = เล่ห์เหลี่ยม, เทคนิค
Contain = บรรจุ
Generally = โดยทั่วไป
Manage = จัดการ, ทำให้สำเร็จ
Pack = ฝูง
Hound = สุนัขล่าเนื้อ
Immediately = ทันทีทันใด
Scamper up = รีบวิ่งก้าวถี่ๆ
Bough = กิ่งไม้
Plan = แผนการ
Debate = ใคร่ครวญ, ไตร่ตรอง
Confusion = ความสับสน
Caught up = ตามไล่ทัน, จับได้
Huntsmen = นายพราน
reckon = พิจารณา

แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Fox And The Cat
Aesop’s Fable

A Fox was boasting to a Cat of its clever devices for escaping its enemies. "I have a whole bag of tricks," he said, "which contains a hundred ways of escaping my enemies." "I have only one," said the Cat; "but I can generally manage with that." 
Just at that moment they heard the cry of a pack of hounds coming towards them, and the Cat immediately scampered up a tree and hid herself in the boughs. "This is my plan," said the Cat. "What are you going to do?" The Fox thought first of one way, then of another, and while he was debating the hounds came nearer and nearer, and at last the Fox in his confusion was caught up by the hounds and soon killed by the huntsmen.


Moral of Aesops Fable: "Better one safe way than a hundred on which you cannot reckon."





แปลไทย
โดย Aonaen

เจ้าสุนัขจิ้งจอกคุยโม้ให้เจ้าแมวฟังว่ามันมีอุบายทีเฉลียวฉลาดในการหลบหนีศัตรู “ฉันมีเทคนิคเล่ห์เหลี่ยมอยู่เต็มกระเป๋า” สุนัขจิ้งจอกพูด “กระเป๋าที่บรรจุแนวทางการหลบหนีร้อยวิธี” “ฉันมีแค่วิธีเดียว” เจ้าแมวพูด “แต่ฉันมักจะหลบหนีสำเร็จได้ด้วยวิธีนั้น”
แค่เวลาไม่นานพวกมันก็ได้ยินเสียงฝูงหมาล่าเนื้อกำลังตรงเข้ามาแล้วเจ้าแมวก็รีบวิ่งขึ้นไปหลบบนต้นไม้และซ่อนตัวอยู่ในกิ่งไม้ “นี่แหล่ะคือวิธีของฉัน” เจ้าแมวพูด “แล้วนายจะหนียังไง?” สุนัขจิ้งจอกเริ่มคิดวิธีแรก จากนั้นก็คิดวิธีต่อมา ขณะที่มันกำลังคิดไตร่ตรองอยู่นั้น หมาล่าเนื้อก็ใกล้เข้ามา และใกล้เข้ามา เจ้าสุนัขจิ้งจอกสับสนจนท้ายที่สุดมันก็ถูกจับได้ และในไม่ช้าก็ถูกนายพรานปลิดชีวิต


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:  ความอุตสาหะอาจแบ่งให้กันได้แต่ไม่อาจแบ่งของให้กันได้เสมอไป



วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ เรื่อง การแบ่งปันของสิงห์โต

การแบ่งปัน (share) คือสิ่งที่ผมยึดถือมาตั้งแต่สมัยเด็ก (childhood) การแบ่งปันไม่เคยทำให้เราเสียแต่มันมีแต่ได้กับได้ต่างหาก เหมือนอย่างเราซื้อขนมปังมาซักก้อนจะกินคนเดียวอวดเพื่อนๆว่าของข้าอร่อย(delicious) ท่ามกลางสายตาแห่งความหวัง(hope) หลายๆคู่ที่จ้องมองมาที่เรามันก็จะรู้สึกกะไรอยู่ ปากอร่อยจริงแต่ใจไม่อร่อยตามจริงไหม... หากเทียบกับซื้อมาแล้วแบ่งให้เพื่อนๆกินด้วย ถึงแม้เราจะได้กินน้อยลงแต่ก็ได้อร่อยกันหลายคน แถมได้ใจเพื่อนๆ ได้ความรู้สึกดีๆ แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าอร่อยจริงอิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจ
ถ้าสิ่งที่เราจะแบ่งนั้นเป็นของของเราแน่นอนว่าถึงแม้จะแบ่งน้อยแบ่งมากก็คนรับก็รู้สึกดี แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ลงทุนลงแรงหามาร่วมกันกรณีแบบนี้ก็ควรจะแบ่งให้เหมาะสมไม่งั้นอาจมีโกรธ(angry)มีเคืองหรืออาจถึงขั้นทะเลาะกันได้ นึกถึงเมื่อก่อนแม่ผมกลับบ้านทีไรจะต้องหิวขนมเต็มไม้เต็มมือมาฝากทุกที ไอ้เราก็มีน้องสาวคนนึงด้วยความหวังดีเกรงว่าน้องโตขึ้นมาแล้วจะอ้วน ดูไม่ดี ความรักที่มีให้น้องอย่างล้นเหลือแสดงออกมาผ่านการแบ่งปันของผม เค้กโตๆชิ้นนั้นมันต้องเป็นของผม! ส่วนของน้องกินนิดเดียวก็พอเดี๋ยวอ้วน!(fat!) น้องผมก็น่ารักนะไม่โวยวายแค่แอบค้อนนิดๆเท่านั้นเอง...ฮ่าๆๆ ถึงตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการแบ่งปันของผมมันยุติธรรมมากน้อยแค่ไหนรู้แต่ว่าตอนนี้ผลกรรมตามทันมีผมนั่งอ้วนอยู่คนเดียว! 
วันนี้นิทานฝึกอังกฤษของเราก็เกี่ยวกับการแบ่งปันนี่ล่ะ เป็นเรื่องของสิงโต(lion) ตัวหนึ่งออกล่าเหยื่อกับพวกพ้องคือ สุนัขจิ้งจอก(fox) หมาใน(jackal) และหมาป่า(wolf) เมื่อได้อาหารมา พวกเขาจะแบ่งกันอย่างไร จะยุติธรรมเหมือนอย่างผมแบ่งขนมให้น้องหรือไม่ต้องลองติดตามในนิทานอีสปภาษาอังกฤษเรื่อง "The Lion's Share" เนื้อเรื่องสั้นๆแต่ได้ใจความ แฝงข้อคิดด้วยนะคร๊าบบ!


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice




ศัพท์อังกฤษ

Hunt = ล่า
Lion = สิงห์โต
Fox = จิ้งจอก
Jackal = หมาใน
Wolf = หมาป่า
Till = จนกระทั่ง
Surprise = จู่โจมโดยไม่ได้ตั้งตัว
Stag = กวางตัวผู้
Life  = ชีวิต
Soon = ในไม่ช้า
Spoil = ของที่ล่ามา
Divide = แบ่ง
Quarter = 1 ใน 4 ส่วน
Roar = แผดเสียง
Animal = เกี่ยวกับสัตว์
Skin = ลอกหนัง
in front of = ข้างหน้า
carcass = ซาก
pronounce = ประกาศ
judgment = การตัดสินใจ
part = ส่วน
capacity = ความสามารถที่จะรับได้
Beast = สัตว์ดุร้าย
Arbiter = ผู้ตัดสิน
Chase = ขับไล่
Dare = กล้า
Paw = อุ้งเท้า, ตะกุย
Lay = วางบน
Upon = บน, เหนือ
Grumble = บ่น
Growl = คำราม
Labour = อุตสาหะ


แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Lion's Share
Aesop’s Fable

     The Lion went once a-hunting along with the Fox, the Jackal, and the Wolf. They hunted and they hunted till at last they surprised a Stag, and soon took its life. Then came the question how the spoil should be divided. "Quarter me this Stag," roared the Lion;
      so the other animals skinned it and cut it into four parts. Then the Lion took his stand in front of the carcass and pronounced judgment: The first quarter is for me in my capacity as King of Beasts; the second is mine as arbiter; another share comes to me for my part in the chase; and as for the fourth quarter, well, as for that, I should like to see which of you will dare to lay a paw upon it!"
"Humph," grumbled the Fox as he walked away with his tail between his legs; but he spoke in a low growl.


Moral of Aesops Fable: "You may share the labours of the great, but you will not share the spoil."




แปลไทย
โดย Aonaen

     ครั้งหนึ่งเจ้าสิงห์โตออกเดินทางไปล่าสัตว์กับสุนัขจิ้งจอก หมาใน และหมาป่า พวกมันล่าและล่าจนกระทั่งสุดท้ายพวกมันได้เข้าจู่โจมกวางตัวหนึ่งและในไม่ช้ามันก็ถูกปลิดชีวิตลง จากนั้นก็มีคำถามตามมาว่าควรจะแบ่งของที่ล่ามายังไง “แบ่งให้ฉัน 1 ในสี่ส่วน” เจ้าสิงโตแผดเสียงออกมา
     ได้ยินดังนั้นพวกสัตว์ที่เหลือจึงลอกหนังออกและแบ่งเป็น 4 ส่วน จากนั้นสิงห์โตก็ไปยืนข้างหน้าซากกวางและประกาศการแบ่ง “ชิ้นแรกเป็นของฉันในฐานะเจ้าป่า ชิ้นที่สองก็เป็นของฉันที่หามาด้วยความอุตสาหะ ส่วนที่สามก็ต้องแบ่งให้ฉันอีกในฐานะผู้มีส่วนร่วมในการล่า และส่วนที่สี่ เอาล่ะ, เช่นเดียวกัน ฉันอยากจะเห็นว่ามีใครที่กล้าจะเอาเท้าขึ้นมาวางบนนี้บ้าง!” “ฮึ่ม.....” เสียงจากเจ้าสุนัขจิ้งจอกหางตกและเดินจากไปพร้อมคำรามเบาๆ

 
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:  ความอุตสาหะอาจแบ่งให้กันได้แต่ไม่อาจแบ่งของให้กันได้เสมอไป




วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ เรื่อง กบสองสหาย

รู้หรือไม่กบรุ่นใหญ่ร้อง “อ๊บๆ...” กบทารกร้อง “อ๊อดๆ...” ฮ่าๆๆ เขียนบล็อกในวันที่ฝนพรำเลยนึกถึงกบขึ้นมาทันที ด้วยเหตุฉะนี้ผมเลยออกเดินทางตามหา สืบหา เสาะแสวงหา! นิทานอีสปภาษาอังกฤษสนุกๆที่เป็นเรื่องกบๆมาให้ ฝึกอังกฤษกัน เนื้อเรื่องแสนสั้นแต่ดันมีข้อคิดซะงั้น ใครมีเวลาน้อยเลือกไม่ถูกว่าจะอ่านเรื่องไหนดีเชิญอ่านเรื่องนี้เลยครับ สั้นแต่อัดแน่นไปด้วยคำศัพท์
“กบสองสหาย” เป็นเรื่องราวของกบสองตัวที่พบว่าบ้านหลังเก่าของพวกมันกำลังจะอยู่ไม่ได้แล้ว ต้องตัดสินใจออกเดินทางเพื่อหาบ้านหลังใหม่ จะเกิดอะไรกับกบทั้งสองตัวนั้นบ้าง เขาจะเจอบ้านใหม่หรือไม่ เชิญติดตามในนิทานอีสปเรื่อง "The Two Frogs"

พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice




ศัพท์อังกฤษ

Frog = กบ
Dwelt = อาศัย, คำนึงถึง (กริยาช่อง2ของ dwell)
Pool = สระน้ำ
Dry up = ทำให้แห้ง
Heat = ความร้อน
Left = ทิ้งไว้, ปล่อยไว้ (กริยาช่อง2ของ leave)
Set out = เริ่มออกเดินทาง
Together = ด้วยกัน
Another = สิ่งอื่น
Chance = เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
Along = ต่อไป
Deep = ลึก
Well = บ่อน้ำ
Amply = พอเพียง
Supply = เก็บสำรอง
Descend = ลงมา
Abode = ที่อยู่อาศัย
Reply = ตอบกลับ
Caution = ระมัดระวัง
Suppose = สมมุติ
Fail =ผิดพลาด
Depth = ความลึก
Regard = พิจารณา
Consequence = ผลลัพธ์

แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Two Frogs
Aesop’s Fable

     Two frogs dwelt in the same pool. The pool being dried up under the summer's heat, they left it and set out together for another home. As they went along they chanced to pass a deep well, amply supplied with water, on seeing which, one of the Frogs said to the other: "Let us descend and make our abode in this well." The other replied with greater caution: "But suppose the water should fail us, how can we get out again from so great a depth?" …


Moral of Aesops Fable: "Do nothing without a regard to the consequences."




แปลไทย
โดย Aonaen

     มีกบสองตัวอาศัยอยู่ในสระน้ำเดียวกัน สระน้ำนั้นกำลังแห้งภายใต้อากาศที่ร้อนระอุในช่วงฤดูร้อน พวกมันทิ้งบ้านหลังเก่าและเริ่มออกเดินทางไปด้วยกันเพื่อหาบ้านหลังใหม่ ขณะที่พวกมันเดินทางอยู่นั้นก็บังเอิญผ่านมาเจอบ่อน้ำลึกแห่งหนี่ง เท่าที่กำลังมองเห็นมันมีน้ำเก็บสำรองเพียงพอ เจ้ากบตัวหนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า “เราลงไปสร้างที่อยู่อาศัยในบ่อน้ำแห่งนี้กันเถอะ” กบอีกตัวตอบกลับด้วยความระมัดระวังมากกว่าว่า “แล้วถ้าสมมุติน้ำไม่พอสำหรับเราอีกล่ะ เราจะขึ้นมาจากบ่อน้ำที่ลึกขนาดนี้ได้ยังไง?”...


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:  หากจะทำอะไรควรพิจารณาถึงผลลัพธ์นั้นเสียก่อน



ฝึกอังกฤษ เรื่อง มดกับตั๊กแตน

เล่าไปถึงสมัยเรียนประถม จำได้ว่าไปโรงเรียนได้เงินวันละ10บาท ต้องจ่ายค่าเดินทางค่ารถไปกลับในตอนนั้นก็ราวๆ2บาท ป๊าดด!...เทียบกับสมัยนี้คนละเรื่องเลย ค่าอาหารตอนเที่ยงไม่ได้จ่ายเพราะมีสิทธิพิเศษผูกข้าวได้ทานอาหารแสนอร่อย(T_T) ในโรงเรียน หักลบออกเหลือเงินใช้ชิลๆวันละ 8บาท เพียงพอสำหรับซื้อขนมกินเล่นตามประสาเด็กหนุ่มวัยละอ่อน แต่สำหรับผมแล้วมันมีอะไรมากกว่านั้น หุ่นยนต์ Transformers สุดเท่ห์ที่ซ่อนตัวอยู่ในกล่องสุดหรูสำหรับผมแล้วมันยากเกินเอื้อมเหลือเกิน ราคาตัวนึงปาไปเกือบร้อย แล้วไม่ได้มีตัวเดียวด้วยที่อยากได้ แหม...จะจัดทั้งที่ก็ขอครบเซ็ตจริงไหม ก็เกิดคำถามขึ้นในใจว่าทำยังไงจะมีเงินซื้อได้ ทำงานหาเงินเหรอ!?...ไม่มีอยู่ในความคิดเลยในตอนนั้น ฮ่าๆ หรือจะขโมยเลยดีมั้ย!!? บ้า...ผมเป็นเด็กดีจะตายไม่ทำอะไรอย่างงั้นหรอก นึกขึ้นได้ว่าคุณพ่อสอนให้ผมเก็บเงินที่เหลือใช้หยอดกระปุกไว้เพื่อฝากเป็นประจำทุกปี  ปิ๊งป่อง!...ทันใดนั้นก็เกิดไอเดียแว๊บขึ้นมาว่า เก็บเพื่อฝากได้ ทำไมเราจะเก็บเพื่อซื้อไม่ได้ ราวกับว่ามีแสงสว่างส่องทะลุผ่านท้องฟ้าอันมืดมิด นับเป็นประสบการณ์ชีวิตครั้งแรกที่ได้เรียนรู้การเก็บออมเพื่อซื้อความฝันเล็กๆของเด็กชายคนหนึ่ง
การวางแผน การเตรียมความพร้อม คือสิ่งที่ต่อยอดมาจากการเก็บออม สิ่งเหล่านี้ผมเห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่าน เมื่อเข้ามาติดตามที่บล๊อกนี้จะไม่ได้เป็นเพียงการฝึกอังกฤษเท่านั้น  แต่ผมจะพยายามนำเสนอทั้งความรู้ คำศัพท์ ข้อคิดต่างๆ ผ่านนิทานภาษาอังกฤษเรื่องสั้น ให้คุณได้อ่าน ได้สนุกสนานกับการเรียนรู้
นิทานภาษาอังกฤษวันนี้ขอเสนอ...เรื่อง “มดกับตั๊กแตน” ที่ว่ามานี้ไม่ใช่ชีวิตของไข่มดแดงหรือตั๊กแตนทอดในตลาดสดนะครับ(คิดแล้วน้ำลายไหล...) แต่เป็นเรื่องการใช้ชีวิตของของเจ้ามดและเจ้าตั๊กแตน ความแตกต่างของสัตว์ทั้งสองชนิดกับฤดูหนาวที่กำลังใกล้เข้ามา จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จะได้ข้อคิดอะไรบ้างในเรื่องนี้ติดตามได้ใน “The Ant And  The Grasshopper”


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice




ศัพท์อังกฤษ

ant = มด
grasshopper = ตั๊กแตน
field = ทุ่งนา
hop =กระโดดขาเดียว
chirp = เสียงร้องจ๊อกแจ๊ก
sing = ร้องเพลง
to <one’s> heart’s content = จนพอใจ (สำนวนภาษาอังกฤษ)
pass by = เดินผ่าน
bear = แบก, หาม
along = พร้อมกับ
great = มาก, มหาศาล
toil = งานหนัก
ear of corn = รวงข้าวโพด
nest = รัง
chat = พูดคุย
moil = งานเหนื่อยยาก
in that way = อย่างนั้น, แบบนั้น
lay up = เก็บไว้ใช้
winter = ฤดูหนาว
recommend = แนะนำ
same = เหมือนกัน
bother = ตัวก่อปัญหา
plenty = จำนวนมาก
present = ปัจจุบันนี้
continue = ดำเนินต่อไป
itself = ตัวมันเอง
dying = กำลังจะตาย
hunger = ความหิว
distribute  =แจกจ่าย
grain = เมล็ด
store = คลัง
collect = สะสม
summer = ฤดูร้อน
prepare = เตรียมพร้อม
necessity = สิ่งจำเป็น

แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Ant and the Grasshopper
Aesop’s Fable

     In a field one summer's day a Grasshopper was hopping about, chirping and singing to its heart's content. An Ant passed by, bearing along with great toil an ear of corn he was taking to the nest.

"Why not come and chat with me," said the Grasshopper, "instead of toiling and moiling in that way?"

"I am helping to lay up food for the winter," said the Ant, "and recommend you to do the same."

"Why bother about winter?" said the Grasshopper; “We have got plenty of food at present." But the Ant went on its way and continued its toil.

When the winter came the Grasshopper had no food and found itself dying of hunger, while it saw the ants distributing every day corn and grain from the stores they had collected in the summer. Then the Grasshopper knew:


Moral of Aesops Fable: "It is best to prepare for the days of necessity."




แปลไทย
โดย Aonaen

     ในฤดูร้อนกลางทุ่งนาแห่งหนึ่ง เจ้าตั๊กแตนกำลังกระโดดโลดเต้น ส่งเสียงร้องเพลงอย่างพึงพอใจ มีมดตัวหนึ่งเดินผ่านมาพร้อมแบกงานที่หนักอึ้งนั่นคือรวงข้าวโพดนั่นเอง เจ้ามดกำลังขนไปไว้ในรัง
ทำไมเจ้าไม่มาคุยกับฉันก่อนล่ะเจ้าตั๊กแตนเอ่ยขึ้นมา แทนที่จะไปทำงานหนักและเหนื่อยยากอย่างนั้น?”

ฉันกำลังช่วยกันเก็บอาหารไว้กินตอนฤดูหนาวเจ้ามดพูด และฉันแนะนำว่าเธอก็ควรจะทำเหมือนกัน

ทำไม ฤดูหนาวมีปัญหาอะไรเหรอ?” เจ้าตั๊กแตนพูด เรามีอาหารอยู่มากมายเลยในตอนนี้ แต่เจ้ามดก็ทำงานของมันต่อไป

เมื่อฤดูหนาวมาถึง เจ้าตั๊กแตนไม่มีอาหารและพบว่าตัวมันเองกำลังจะตายเพราะความหิว ในขณะที่เห็นพวกมดกำลังแจกจ่ายข้าวโพด เมล็ดพืชให้ได้กินกันทุกวันจากคลังที่พวกมันเก็บสะสมไว้ตั้งแต่ฤดูร้อน จากนั้นเจ้าตั๊กแตนจึงได้เข้าใจ


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:  การรู้จักเตรียมความพร้อมในสิ่งที่จำเป็นคือสิ่งสำคัญที่สุด



วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ เรื่อง เด็กน้อยจอมเกเร ตอนที่ 2

     ฝึกอังกฤษวันนี้มาติดตามกันต่อกับนิทานเรื่อง "เด็กน้อยจอมเกเร ตอนที่ 2" จากความเดิมตอนที่แล้ว เฒ่ากวีได้พบกับเด็กน้อยและช่วยเขาให้พ้นจากพายุบ้าคลั่งด้วยการพาเข้าไปหลบในห้องอุ่นๆและอาหารแสนอร่อยมากมาย เด็กน้อยผู้น่าสงสารได้รับการดูแลจากเฒ่ากวีเป็นอย่างดี จนเขาสามารถกลับมาแข็งได้อีกครั้ง แต่นั่นเป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องเท่านั้น เขาจะตอบแทนผู้มีพระคุณของเขาอย่างไร ดูจากชื่อเรื่องแล้วเด็กเกเรยังไม่เผยตัวออกมาให้เห็น อีกไม่นานเราจะได้รู้กันว่าใครที่เกเรและมีพฤติกรรมของความเกเรยังไงบ้าง มาต่อกันเลยกับตอนที่ 2 ของ "The Naughty Boy"


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice




ศัพท์อังกฤษ

lie = วางนอนบนพื้น
shoot = ยิง
assure = ทำให้มั่นใจ
weather = สภาพอากาศ
indeed = อย่างแท้จริง, แต่โดยดี
hurt = เสียหาย
string = สาย, เชือก
tight = แน่น
directly = ทันทีทันใด
bent = งอ, คดโกง
aim = เล็ง, ตั้งใจ
treated  = เลี้ยง, ปฎิบัติ
kindly = อ่อนโยน
earth = พื้นดิน, มนุษย์, โลก
wept = คร่ำครวญขณะที่ร้องไห้ (กริยาช่อง2ของ weep)
flown = บิน, ลอย (กริยาช่อง2ของ fly)
fie! =โธ่! (คำอุทานแสดงความไม่พอใจ)
cause = ทำให้เกิด
sorrow  = ความเศร้าใจ
heartache = ความเสียใจ
relate =  เล่าเรื่อง
heed = เอาใจใส่
fool = โง่
astonishingly = อย่างน่าประหลาด
cunning = ความเจ้าเล่ห์
university = มหาวิทยาลัย
lecture =  การบรรยาย
impossible = เป็นไปไม่ได้
unperceived = ไม่สามารถรับรู้ได้
thrust = ผลัก, แทง
bosom = หน้าอก
maiden = สาวโสด
church = โบสถ์
forever = ตลอดไป
ill-behave = ประพฤติตัวแย่

แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Naughty Boy (Part 2)
by Hans Christian Andersen

     "My name is Cupid," answered the boy. "Don't you know me? There lies my bow; it shoots well, I can assure you! Look, the weather is now clearing up, and the moon is shining clear again through the window."

"Why, your bow is quite spoiled," said the old poet.

"That were sad indeed," said the boy, and he took the bow in his hand and examined it on every side. "Oh, it is dry again, and is not hurt at all; the string is quite tight. I will try it directly." And he bent his bow, took aim, and shot an arrow at the old poet, right into his heart. "You see now that my bow was not spoiled," said he laughing; and away he ran.

The naughty boy, to shoot the old poet in that way; he who had taken him into his warm room, who had treated him so kindly, and who had given him warm wine and the very best apples!

The poor poet lay on the earth and wept, for the arrow had really flown into his heart.

"Fie!" said he. "How naughty a boy Cupid is! I will tell all children about him, that they may take care and not play with him, for he will only cause them sorrow and many a heartache."

And all good children to whom he related this story, took great heed of this naughty Cupid; but he made fools of them still, for he is astonishingly cunning. When the university students come from the lectures, he runs beside them in a black coat, and with a book under his arm;and then, unperceived, he thrusts an arrow to their bosom. When the young maidens go to church to be confirmed, there he is again close behind them. Yes, he is forever following people, you must never have anything to do with him. He is forever running after everybody. Only think!, a thing of that sort we never forget. Fie, naughty Cupid! Now you know him, and you know, too, how ill-behaved he is!




แปลไทย
โดย Aonaen

     “ผมชื่อคิวปิด” เด็กน้อยตอบ “คุณไม่รู้จักผมใช่มั้ย? ที่วางอยู่นี่คือธนูของผมเองมันยิงดีมากผมรับรองได้! ดูสิ ท้องฟ้ากำลังเปิด พระจันทร์ส่องแสงสว่างอีกครั้งผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง 

“ทำไมธนูของเธอถึงพังล่ะ” กวีเฒ่าพูดขึ้นมา 

“มันเป็นความจริงที่น่าเศร้า” เด็กน้อยกล่าวพร้อมหยิบธนูมาไว้ในมือแล้วตรวจดูรอบด้าน “อ้าว มันแห้งแล้วนี่ ไม่เสียหายเลยด้วย สายธนูตึงใช้ได้ ผมจะลองดูเดี๋ยวนี้เลย” ว่าแล้วก็ง้างธนู เล็ง และยิงไปที่กวีเฒ่า ลูกธนูพุ่งตรงเข้าที่หัวใจของเขา “ตอนนี้คุณเห็นรึยังว่าธนูผมไม่ได้พัง” เด็กน้อยพูดพร้อมหัวเราะแล้ววิ่งจากไป 

เจ้าเด็กเกเรคนนี้ได้ยิงกวีเฒ่าผู้ซึ่งพาเขาไปหลบในห้องอุ่นๆ จัดหาอาหารมาให้ด้วยความใจดี และเป็นผู้ให้น้ำองุ่นกับแอ๊พเปิ้ลที่ดีที่สุดให้กับเขา” 

กวีผู้น่าสงสารนอนลงบนพื้นร้องไห้คร่ำครวญให้กับลูกธนูที่ลอยพุ่งเข้ามาแทงหัวใจของเขา 

“โธ่!” กวีเฒ่าพูด “ช่างเกเรอะไรอย่างงี้คิวปิด! ฉันจะบอกเด็กทุกคนให้รู้เกี่ยวกับเขา เด็กๆจะได้ดูแลตัวเองและไม่เล่นกับเขา ไม่งั้นเขาคงจะทำให้เด็กๆต้องเศร้าและเสียใจมาก 

เอาล่ะเด็กดีทุกคนที่ได้ฟังเรื่องเล่านี้ การที่เอาใจใส่ดูแลเด็กเกเรคนนั้นทำให้เขากลายเป็นคนโง่ สำหรับเขาแล้วมันคือความเจ้าเล่ห์ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก, เมื่อเหล่านักศึกษามหาวิทยาลัยกลับจากการฟังบรรยายเด็กเกเรคนนั้นได้วิ่งมาอยู่ข้างๆในชุดสีดำกับหนังสือที่หนีบไว้ใต้ หลังจากนั้นไม่ทันได้รู้ตัวพวกเขาก็โดนลูกธนูแทงเข้าที่หน้าอก, ขณะที่เหล่าหญิงสาวเดินทางไปที่โบสถ์เพื่อรับการยืนยันก็มีเด็กเกเรคนนั้นก็ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งที่ด้านหลัง ใช่แล้วเขาจะตามผู้คนตลอดไป คุณไม่จำเป็นต้องมีสี่งที่เคยทำกับเขา เขาจะตามคุณทุกไปตลอด เพียงแค่คิด! สี่งที่เกิดขึ้นนั้นพวกเราไม่เคยลืม โธ่เอ้ย คิวปิดจอมเกเร ตอนนี้คุณได้รู้จักเขาแล้ว และคุณก็รู้ด้วยว่าเขามีพฤติกรรมแย่ๆยังไงบ้าง