วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

ฝึกอังกฤษ เรื่อง สิงห์โตกับหมูป่า

ฝึกอังกฤษกับนิทานภาษาอังกฤษบทความนี้เป็นเรื่องของสิงห์โตกับหมูป่าที่มาเจอกันในวันอากาศร้อนๆ ไปๆมาๆมีเรื่องกันซะงั้น... เมื่อหมูป่าปะทะกับสิงห์โต ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ใครจะได้อะไร ใครจะเสียอะไร เรื่องนี้ให้ข้อคิดที่ดีมากๆลองติดตามกันได้ในนิทานภาษาอังกฤษเรื่อง "The lion and the boar"

พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice


ศัพท์อังกฤษ

heat=ความร้อน
induce =ชักชวน
thirst =กระหายน้ำ
moment=ช่วงเวลา
well=บ่อน้ำ
fiercely =อย่างรุนแรง
dispute =โต้เถียง
engage = ต่อสู้
agony =การระเบิดอารมณ์
mortal =ถึงตาย
combat =การต่อสู้
sudden =กระทันหัน
breath =การหายใจ
renewal =การเริ่มใหม่
strife =การต่อสู้กัน
vulture =นกแร้ง
crow =อีกา
distance =ระยะห่าง
strive =ต่อสู้แข่งขัน
defeat =ความพ่ายแพ้
advantage =ให้ผลประโยชน์
benefit =ได้ผลประโยชน์

แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)




The Lion and the Boar
Aesop’s Fable

On a summer day, when the great heat induced a general thirst, a Lion and a Boar came at the same moment to a small well to drink.
They fiercely disputed which of them should drink first, and were soon engaged in the agonies of a mortal combat.
On their stopping on a sudden to take breath for the fiercer renewal of the strife, they saw some Vultures waiting in the distance to feast on the one who defeat.
The boar saying: "It is better for us to make friends, than to become the food of Vultures or Crows"


Moral of Aesops Fable: "Those who strive are often watched by others who will take advantage of their defeat to benefit themselves."

แปลไทย
โดย Aonaen

ในฤดูร้อนวันหนึ่ง เมื่อความร้อนระอุชักชวนให้เกิดความหิวกระหาย ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นมีสิงห์โตและหมูป่าเข้ามาที่บ่อน้ำเล็กๆแห่งหนึ่งเพื่อดื่มน้ำดับกระหาย
พวกมันโต้เถียงกันอย่างรุนแรงว่าใครที่ควรจะได้ดื่มน้ำก่อน และในไม่ช้าพวกมันก็ได้เข้าต่อสู้กันด้วยความโมโหราวกับว่าต้องล้มกันให้ตายไปข้างนึง
ในระหว่างที่พวกมันหยุดพักหายใจอย่างกระทันหันเพื่อเริ่มการต่อสู้ใหม่อีกครั้ง พวกมันได้เห็นนกแร้งกำลังรออยู่ห่างๆเพื่อเปิดงานเลี้ยงกินผู้แพ้เป็นอาหารอยู่
หมูป่าพูด "มันจะดีถ้าเรามาเป็นเพื่อนกัน ดีกว่ากลายเป็นอาหารของนกแร้งหรืออีกาพวกนั้น"


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ผู้ที่แข่งขันกันมักจะถูกจ้องมองจากผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์กับผู้แพ้”









วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

ฝึกอังกฤษ เรื่อง ต้นไม้กับต้นกก

มองออกไปนอกหน้าต่างท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่นานฟ้าก็รั่วฝนตกหนักเหลือเกินวันนี้ พายุหลงฤดูลมแรงมาก ต้นไม้ใหญ่ๆถึงกับโค้งคำนับต้อนรับพายุกันเลยทีเดียว สภาพอากาศอย่างนี้มันชวนให้นอนขดตัวอยู่ในห้องจริงๆ ถึงไม่อยากจะนอนก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี... แต่มันก็ช่างประจวบเหมาะเหลือเกินกับนิทานเรื่องที่จะใช้ฝึกอังกฤษกันในวันนี้
นิทานภาษาอังกฤษวันนี้เรือง "The tree and the reed" แปลไทยว่า "ต้นไม้กับต้นกก" นั่นเอง เป็นเรื่องของเจ้าต้นไม้ที่เป็นไม้ยืนต้นกับเจ้าต้นกกที่เป็นไม้ล้มลุก ด้วยการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของสองคนนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้าง ขอบอกว่านิทานเรื่องนี้ให้ข้อคิดที่ดีเลยทีเดียวลองอ่านกันดูได้เลยครับ


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice



ศัพท์อังกฤษ

tree = ต้นไม้
reed = ต้นกก
grow = เจริญเติบโต
plant = เพาะปลูก
deeply = อย่างลึก
raise = ยกขึ้น, ชูขึ้น
boldly = อย่างชัดเจน
contented = พอใจในสิ่งที่เป็นอยู่
grand = ใหญ่โต
safe = ปลอดภัย
safer = ปลอดภัยกว่า
sneer = เยาะเย้ย
pluck = ถอน
root = ราก
bow = โค้ง
repent = สำนึกผิด
boast = คุยโว
arose(กริยาช่องที่2ของ arise) = เกิดขึ้น
tore(กริยาช่องที่2ของ tear) = ฉีก
cast = ทิ้ง
useless = ใช้งานไม่ได้, ไร้ค่า
log = ท่อนไม้
bend = งอตัว
force = แรง, กำลัง
upright = ตั้งตรง
obscurity = ความไม่เป็นที่รู้จัก

แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The tree and the reed
Aesop’s Fable

"Hi, little one," said a Tree to a Reed that was growing at its foot, "why do you not plant your feet deeply in the ground, and raise your head boldly in the air as I do?"
"I am contented with my lot," said the Reed. "I may not be so grand, but I think I am safer."
"Safe!" sneered the Tree. "Who can pluck me up by the roots or bow my head to the ground?" But it soon had to repent of its boasting, for a hurricane arose which tore it up from its roots, and cast it a useless log on the ground, while the little Reed, bending to the force of the wind, soon stood upright again when the storm had passed over.


Moral of Aesops Fable: "Obscurity often brings safety"



แปลไทย
โดย Aonaen

"สวัสดี เจ้าตัวน้อย" ต้นไม้พูดกับต้นกกที่กำลังเติบโตบนเท้าของมัน "ทำไมเจ้าถึงไม่ฝังเท้าลึกลงไปบนพื้นดิน ชูหัวขึ้นกลางอากาศโดดเด่นชัดเจนเหมือนอย่างที่ข้าทำล่ะ?"
"ข้าพอใจในสิ่งที่ข้าเป็นมากพอแล้ว" ต้นกกพูด "ถึงข้าจะไม่ใหญ่โต แต่ข้าคิดว่ามันทำให้ปลอดภัยกว่า"
"ปลอดภัย!" ต้นไม้เยาะเย้ย "จะมีใครจะมาถอนราก หรือกดหัวข้าให้โค้งลงที่พื้นได้เหรอ?" ในไม่ช้า เจ้าต้นไม้ต้องสำนึกผิดกับคำคุยโวของตนเอง เมื่อมีพายุเฮอริเคนเกิดขึ้นและได้ฉีกเจ้าต้นไม้ขาดออกจากรากของมัน ทิ้งไว้ให้กลายเป็นท่อนไม้ที่ไร้ค่าอยู่บนพื้น ในขณะที่เจ้าต้นกกตัวงอไปตามแรงลม ไม่นานก็กลับมาตั้งตรงได้อีกครั้งหลังพายุพัดผ่านไป


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ความไม่เป็นที่รู้จัก มักนำมาซึ่งความปลอดภัย”







วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ อ่านนิทานภาษาอังกฤษ

บล็อกนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ รวมรวมข้อมูลความรู้ต่างๆเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานโครงสร้างประโยค Grammar หลักการใช้ Tense ต่างๆ และอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับผู้เริ่มต้นขึ้นไป บางคนยังไม่รู้ว่าควรเริ่มยังไงก็สามารถติดตามบล็อกนี้ได้นะครับ
เนื้อหาในบล็อกจะเน้นไปที่การฝึกอ่านนิทานภาษาอังกฤษ เพราะคำศัพท์ง่าย ประโยคไม่ซับซ้อน อ่านแล้วเพลิดเพลินพร้อมทั้งได้ความรู้ แต่ก่อนอื่นต้องเรียนรู้เรื่อง Tense ต่างๆเสียก่อน ได้แก่ Present Tense (ปัจจุบัน), Past Tense (อดีต), Future Tense (อนาคต) เมื่อเริ่มเข้าใจแล้วก็ไปลุยทดสอบความรู้กับนิทานกันเลยครับ
นิทานทุกเรื่องจะมีการแปลความหมายของคำศัพท์ก่อน เพื่อความสะดวกและต่อเนื่องในการฝึกอ่าน มีเนื้อเรื่องภาษาอังกฤษ และคำแปลภาษาไทยอยู่ด้านล่างจะหลีกเลี่ยงการแปลความหมายแทรกไว้ระหว่างเนื้อเรื่องเพื่อป้องกันปัญหาการลักไก่(แอบดู) วิธีการก็คือให้พยายามดูให้เข้าใจว่ารูปประโยคอยู่ใน Tense ไหน โครงสร้างของภาษาอังกฤษและภาษาไทยบางประโยคจะไม่เหมือนกันเมื่อรู้สึกว่าแปลออกมาแล้วดูแข็งทื่อ เก้งก้าง อ่านแล้วงง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ให้ทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้พูดต้องการจะสื่อจากนั้นค่อยแปลความหมายจัดเรียงคำใหม่ให้สละสลวยตามภาษาของเรา
            เรื่องคำศัพท์นี่ตามสะดวกเลยครับ จะอ่านและจำคำศัพท์ไปตามเนื้อเรื่อง หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือจำคำศัพท์ให้ได้ก่อนแล้วค่อยแปลไปตามเนื้อเรื่องซึ่งผมถนัดอย่างหลังมากกว่า เพราะเหมือนกับเรามีสิ่งที่เรารู้อยู่ก่อน แล้วเห็นการนำไปใช้จริงเลยทำให้เข้าใจและจำคำศัพท์ได้แม่นยำขึ้น

ความรู้พื้นฐาน





แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)

ฝึกอังกฤษ เรื่อง เด็กกับกบ

นิทานอีสปภาษาอังกฤษสำหรับฝึกอังกฤษวันนี้ เนื้อเรื่องอาจจะสั้นหน่อย เพราะช่วงนี้กำลังยุ่งๆ พอมีเวลาว่างก็แอบฝึกอังกฤษด้วยการดูหนังเพลินมากครับขอบอก หลังจากได้ศัพท์จากการอ่านและสกิลการแปลมาประมาณนึง ผมก็เริ่มฝึกฟังการออกเสียง ฟังสำเนียงของจริงผ่านภาพยนต์การ์ตูนอนิเมชันสนุกๆ ที่เลือกฝึกจากภาพยนต์การ์ตูนอนิเมชันก็เพราะเค้าทำมาให้เด็กดูครับ! ไม่ได้จะแอ๊บเด็กนะแต่ศัพท์เค้าไม่ยากไงแถมออกเสียงชัดเจนอีกต่างหาก ใครสนใจก็ลองดูได้นะครับแนะนำให้โหลดโปรแกรมที่สามารถเปิดทั้งซับไทยและซับอังกฤษได้พร้อมๆกัน ไม่ต้องเปิดแบบรวดเดียวจบถ้าไม่ทันก็ค่อยๆฟังทีละประโยค เทคนิค pause & play ที่ผมใช้ทำให้ภาพยนต์หนึ่งเรื่องกลายเป็นหนังซีรี่ย์ขนาดย่อมๆ กว่าจะจบก็ดูกันเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว (ฮา)
นิทานภาษาอังกฤษของเราวันนี้เกี่ยวกับเรื่องของกีฬาครับ “กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ฮ่า..ไฮ่..ฮ่า..ไฮ่!” ฮ่าๆๆ เพลงฮิตติดหูอีกเพลงในสมัยวัยละอ่อน กีฬาคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนานเป็นประโยชน์กับทั้งร่างกายและจิตใจ ว่ากันว่าผู้ใดที่ชอบเล่นกีฬาออกกำลังกายนอกจากจะมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แล้วยังส่งผลถึงจิตใจช่วยให้ผ่อนคลายจากความเครียดและที่สำคัญยังทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น พูดง่ายๆคือทำให้แข็งแรงและฉลาด บร๊ะ! สมกับเป็นยาวิเศษอย่างที่เค้าว่าจริงๆ แต่สำหรับใครที่ชอบทำอะไรแผลงๆเล่นเป็นกีฬาเพื่อความสนุกจนบางทีลืมนึกถึงผู้อื่น อยากให้ลองอ่านนิทานเรื่องนี้ดูครับ
ฝึกอังกฤษเรียนรู้คำศัพท์ด้วยการอ่านนิทานอีสปภาษาอังกฤษเรื่อง“เด็กกับกบ” เป็นเรื่องของกลุ่มเด็กๆทีมีเรื่องกับกบ!!? เกมกีฬาที่พวกเขาสร้างขึ้นจะส่งผลกระทบยังไงกับกบที่พวกเขาเจอบ้าง ติดตามเรื่องราวกันได้ใน “The Boys And The Frogs”


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice



ศัพท์อังกฤษ

Boy = เด็กผู้ชาย
Frog = กบ
Pond = สระน้ำ
Number = จำนวน
Pelt = ระดมยิง
Stone = ก้อนหิน
Several = หลาย (มากกว่าสอง)
Lift = ยก
Cried out = ร้องตะโกน (กริยาช่อง2ของ Cry out)
Pray = สวดอ้อนวอน
Sport = กีฬา
Death = ความตาย
Trouble = ความเดือดร้อน


แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Boys And The Frogs
Aesop’s Fable

Some boys, playing near a pond, saw a number of Frogs in the water, and began to pelt them with stones. They killed several of them, when one of the Frogs, lifting his head out of the water, cried out: "Pray stop, my boys; what is sport to you is death to us."


Moral of Aesops Fable: "What we do in sport often makes great trouble for others."



แปลไทย
โดย Aonaen

มีเด็กกลุ่มหนึ่ง กำลังเล่นอยู่ใกล้ๆสระน้ำ พวกเด็กๆมองเห็นกบจำนวนหนึ่งอยู่ในน้ำ และก็เริ่มโยนก้อนหินใส่กบเหล่านั้น พวกเด็กๆได้ฆ่ากบไปหลายตัว ในขณะนั้นเองก็มีกบตัวหนึ่งโผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ ร้องตะโกนออกมาว่า “ขอร้องหยุดเถอะ พวกเด็กๆของข้า สิ่งที่พวกเจ้าทำคือกีฬาของพวกเจ้าแต่สำหรับพวกเรามันคือความตาย”


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “บางสิ่งเราทำเป็นเกมกีฬา บ่อยครั้งมักสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น”







วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ เรื่อง กบกับวัว

สวัสดีกันอีกครั้งในวันฝนตก บรรยากาศแบบนี้แน่นอนว่าไม่มีอะไรจะเหมาะเท่ากับการเล่าเรื่องกบๆ (frog) ส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบสภาพอากาศชื้นๆแบบนี้เลย จะออกไปข้างนอกก็ลำบาก ไม่ว่าทางเดิน(footpath) ท้องถนน(road) หรือแม้กระทั่งสวนสาธารณะ(park)ที่เราไปออกกำลังกาย ไปทำกิจกรรม(activity)สนุกๆกับเพื่อนๆ ต้องเปียกปอน(wet)เฉอะแฉะไปซะทุกมุม ไม่เหมาะกับ Life Style ของนักกิจกรรมนอกบ้านอย่างผมเลย (ฮา) อาจเป็นผลสืบเนื่องมากจากเรื่องราวฝังใจเมื่อครั้งยังเด็กที่ผมออกไปปั่นจักรยานเล่นหลังจากที่รอฝนหยุดตกมาเกือบทั้งวัน วันนั้นผมจำได้ว่าเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ชาวนาพาฝูงควาย(buffalo)กลับเข้าบ้านกันหมดแล้ว มีเพียงถนนโล่งๆ ไม่มีคน ไม่มีรถ บรรยากาศระงมไปด้วยเสียงของกบหลายสิบตัวที่ซ่อนอยู่ตามโพรงหญ้า ด้วยจินตนาการอันล้ำเลิศเสียงกบเหล่านั้นทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าผมกำลังอยู่ในการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลกท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนนับพันที่กำลังจดจ้องพร้อมทำให้กำลังใจผมอยู่ ผมเกิดความฮึกเหิมขึ้นในฉับพลัน พลังเชียร์แปลงมาเป็นพลังปั่น ผมเร่งความเร็วขึ้นดุจสายฟ้าที่กำลังแล่บ แต่พื้นถนนที่เปียกแฉะไม่สามารถรองรับความเร็วของจักรยานแชมป์เปี้ยนของผมได้ทำให้ผมเสียหลักและลงไปกองกับพื้น ที่เจ็บไม่ใช่ร่างกายแต่มันเจ็บใจมากกว่าเมื่อรู้ตัวว่าลงไปฟุบบนกองขี้ควายเต็มๆ! (ฮา) นึกแล้วก็ขำตัวเองทั้งเนื้อทั้งตัวเปรอะเปื้อนสกปรก(dirty)ไปหมด ต้องล้างทุกซอกทุกมุม นับเป็นวันที่ผมอาบน้ำสะอาดที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ (ฮา)
ฝึกอังกฤษวันนี้เสนอนิทานที่หลายๆคนอาจเคยได้ยินได้ฟังมากันบ้างแล้ว ผมเองก็อ่านจบมาหลายรอบเหมือนกันแต่ครั้งนี้ลองมาอ่านในเวอร์ชันภาษาอังกฤษบ้างกับนิทานเรื่อง “กบกับวัว” เป็นเรื่องราวของเจ้ากบจอมอวดดีที่คิดว่าตัวเองสามารถทำในสิ่งที่สุดยอดได้ สิ่งที่สุดยอดที่ว่าคืออะไร และผลจะเป็นเช่นไรต้องติดตามกันในนิทานอีสปภาษาอังกฤษเรื่อง “The Frog And The Ox”


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice



ศัพท์อังกฤษ

Frog = กบ
Ox = วัว
Side = ข้าง
Pool = สระน้ำ
Terrible = น่ากลัว
Monster = สัตว์ประหลาด
Mountain = ภูเขา
Horn = เขา
Tail = หาง
Hoof = กีบ
Divide = แบ่งแยก
Tush = เบื่อหน่าย, แสดงความเบื่อหน่าย, ไม่เอาน่า
Farmer = ชาวนา
Either = เช่นกัน
A little bit = นิดหน่อย
Easily = อย่างง่าย
Quite = เยอะ
Broad = กว้างใหญ่
Reply = ตอบกลับ
Deep = ลึก
Breath = สูดลมหายใจ
Blew out = พองตัวออก (กริยาช่อง2ของ Blow out)
Swell = เพิ่มขนาด
Burst = แตก, ระเบิด
Moment = ชั่วขณะ
Conceit = ความอวดดี
Lead to = ส่งผลให้
Destruction = ถูกทำลาย

แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Frog And The Ox
Aesop’s Fable

"Oh Father," said a little Frog to the big one sitting by the side of a pool, "I have seen such a terrible monster! It was as big as a mountain, with horns on its head, and a long tail, and it had hoofs divided in two."
 "Tush, child, tush," said the old Frog, "that was only Farmer White's Ox. It isn't so big either; he may be a little bit taller than I, but I could easily make myself quite as broad; just you see." So he blew himself out, and blew himself out, and blew himself out. "Was he as big as this?" asked he.
"Oh, much bigger than that," said the young Frog
 Again the old one blew himself out, and asked the young one if the Ox was as big as that. 
"Bigger, father, bigger," was the reply. 
 So the Frog took a deep breath, and blew and blew and blew, and swelled and swelled and swelled. And then he said: "I'm sure the Ox is not as big as this. But at this moment he burst.


Moral of Aesops Fable: "Self-conceit may lead to self-destruction."



แปลไทย
โดย Aonaen

“คุณพ่อฮะ” เจ้ากบตัวน้อยพูดกับกับเจ้ากบตัวใหญ่ที่กำลังนั่งอยู่ข้างสระน้ำ ผมเห็นสัตว์ประหลาดน่ากลัวมากตัวมันใหญ่อย่างกับภูเขา มีเขาอยู่บนหัว หางยาว แล้วก็มีกีบเท้าแยกออกเป็นสองทางด้วย
“ไม่เอาน่าลูก” พ่อกบพูด “แถวนี้มีแต่ชาวนากับวัวตัวขาวเท่านั้นแหล่ะ แล้วตัวมันก็ไม่ได้ใหญ่ด้วย มันอาจจะสูงกว่าพ่อแค่นิดหน่อย แต่พ่อสามารถทำให้ตัวพ่อขยายใหญ่ขึ้นได้อีกเยอะ ดูนะ” ว่าแล้วเจ้ากบตัวพ่อก็พองตัวออก พองตัวออก แล้วก็พองตัวออก “ตัวมันใหญ่เท่านี้รึเปล่า” พ่อกบถาม
“โอ้ว, ใหญ่กว่านี้อีกเยอะฮะพ่อ” เจ้ากบตัวน้อยพูด
 อีกครั้งกับการพองตัวของเจ้ากบตัวเดิม และถามลูกของมันว่า วัวที่ลูกเห็นตัวใหญ่เท่านั้นหรือเปล่า
“ใหญ่อีกฮะพ่อ ใหญ่กว่านี้อีก” เจ้ากบตัวน้อยตอบกลับ
 เจ้ากบตัวพ่อได้ยินดังนั้นจึงสูดลมหายใจลึก พองตัว พองตัว และพองตัว ขนาดก็เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น แล้วพูดว่า “พ่อแน่ใจแล้วว่าเจ้าวัวที่ลูกเห็นคงตัวไม่ใหญ่เท่านี้แน่” แต่ในขณะนั้นเองพุงของเจ้ากบตัวพ่อก็ระเบิดออก


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ความอวดดีอาจส่งผลเสียต่อตัวเราเอง”







วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ เรื่อง ม้ากับกวาง

“ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว” คำสอนนี้ถือเป็นคำสอนสุดฮิตที่ทุกเพศทุกวัย ทุกรุ่น ทุกเจเนอร์แรชันต้องเคยได้ยิน มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าคำสอนนี้มักจะเป็นจริงเสมอ ยกตัวอย่างเช่น สมัยเด็กๆ(childhood) ผมอาศัยอยู่ในเขตชนบท(countryside)ด้วยชีวิตที่ติดดินอยากกินอะไรก็หาได้ตามป่า(forest)ตามเขา(mountain) มีวันนึงผมออกไปหาปู(crab)กับพี่สาวซึ่งเป็นลูกสาวของคุณป้าข้างบ้าน ปูที่เรากำลังจะไปหาคือปูนาซึ่งตามธรรมชาติแล้วมันจะหลบซ่อนอยู่ในรู เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานนี้ก็คือเสียมและข้อง(รูปร่างคล้ายน้ำเต้าแต่เป็นไม้สานมีเชือกร้อยเป็นสายสะพายมีฝาปิดด้านบน) ในขณะที่พี่สาวกำลังนั่งขุดรูปูอยู่บนพื้นดินที่เฉอะแฉะ ด้วยความซุกซน(naughty)ของผม อยู่ดีๆก็นึกอยากจะแกล้งขึ้นมาก็เลยเอานิ้วมือจิ้มไปที่เอวของพี่สาวกะว่าจะให้สะดุ้งตกใจและเสียหลักลงไปคลุกกับโคลนบนพื้น............ สำเร็จ!พี่สาวสะดุ้งด้วยความตกใจแต่สิ่งที่มันผิดแผนก็คือด้านเสียมในมือพี่สาวพุ่งตรงเข้ามาที่ฟันกระต่ายคู่หน้าของผมเต็มๆความแรงเท่ากับความตกใจส่งผลทำให้ฟันคู่หน้าของผมหายไปครึ่งนึงทันที เป็นไงล่ะ! นี่แหละหนาที่โบราณท่านว่า “ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว” ได้อ่านเรื่องนี้แล้วเด็กๆไม่ควรเอาเยี่ยงอยากนะครับ T-T
มาฝึกอังกฤษกันครับกับผลลัพธ์ของการให้ทุกข์คนอื่น นิทานอีสปภาษาอังกฤษเรื่อง “ม้ากับกวาง” เป็นเรื่องของเจ้าม้าขี้ตืดที่วางแผนจะทำร้ายเจ้ากวางหนุ่มผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เรามาดูกันว่าเจ้าม้าตัวนี้จะได้รับผลเช่นไร จะฟันหักเหมือนกับผมหรือไม่ ติดตามได้ใน “The Horse And The Stag”


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice



ศัพท์อังกฤษ

Horse = ม้า
Stag = กวางตัวผู้
Plain = ที่ราบ
Entirely = ทั้งหมด,โดยสิ้นเชิง
Intrude = บุกรุก
Domain = อาณาเขต
Pasture = ทุ่งเลี้ยงสัตว์
Desire = ปรารถนา
Revenge = แก้แค้น
Stranger = ผู้แปลกหน้า
Request = การขอร้อง
Willing = ซึ่งเต็มใจ
Punish = ทำโทษ
Contrive = ประดิษฐ์
Effectual = ได้ผลตามที่ตั้งใจ
Weapon = อาวุธ
Against = ต่อต้าน
Consent = ยอมรับ
Allow = อนุญาต
Mount = ขึ้นม้า
Obtain = ได้รับ
Enslave = จับไปเป็นทาส
Service = รับใช้
Seek = มองหา.แสวงหา
Injure = ทำร้าย


แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Horse And The Stag
Aesop’s Fable

The Horse had the plain entirely to himself. A Stag intruded into his domain and shared his pasture. The Horse, desiring to revenge himself on the stranger, requested a man, if he were willing, to help him in punishing the Stag. The man replied, that if the Horse would receive a bit in his mouth, and agree to carry him, he would contrive very effectual weapons against the Stag. The Horse consented, and allowed the man to mount him. From that hour he found that, instead of obtaining revenge on the Stag, he had enslaved himself to the service of man.

Moral of Aesops Fable: "He who seeks to injure others often injures only himself."




แปลไทย
โดย Aonaen

ม้าตัวหนึ่งมีทีราบกว้างใหญ่เป็นของตัวเอง มีกวางตัวหนึ่งบุกรุกเข้ามายังอาณาเขตของเจ้าม้าและยังใช้ทุ่งเลี้ยงสัตว์ร่วมกับเจ้าม้าอีกด้วย มันจึงเกิดแรงปรารถนาที่จะแก้แค้นผู้แปลกหน้าที่บังอาจเข้ามาล้วงล้ำอาณาเขต มันจึงไปร้องขอชายผู้หนึ่งซึ่งเต็มใจที่จะช่วยทำโทษเจ้ากวางตัวนั้น ชายผู้นั้นตอบกลับว่าถ้าเจ้าม้ารับปากว่าจะยอมให้เขาขึ้นขี่หลังเขาจะประดิษฐ์อาวุธที่รับรองผลได้เลยว่าจะสามารถต่อต้านเจ้ากวางตัวนั้นได้เป็นที่แน่นอน เจ้าม้ายอมรับและอนุญาตให้ชายผู้นั้นขึ้นขี่หลังของมัน หลังจากชั่วโมงนั้นมันก็พบว่า แทนที่จะได้รับการแก้แค้นกลับกลายเป็นว่ามันถูกทำให้กลายเป็นทาสรับใช้ของชายผู้นั้นแทน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ผู้ที่มุ่งร้ายคนอื่นมักจะเป็นผู้ที่ถูกทำร้ายเสียเอง”







วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฝึกอังกฤษ เรื่อง สุนัขจิ้งจอกกับแมว

หลายคนอยากพูดภาษาอังกฤษเป็นพยายามฝึกตัวเองด้วยวิธีต่างๆนานาบ้างก็สำเร็จบ้างก็ไม่สำเร็จ ส่วนใหญ่ที่ไม่สำเร็จคือเกิดความท้อ ผมเชื่อว่าคนที่สำเร็จคือผู้ที่สามารถเอาชนะความท้อของตัวเองได้เพราะฉะนั้นอย่ายอมแพ้ง่ายๆครับ“ท้อได้แต่อย่าถอย”วลีนี้ยังคงใช้ได้กับทุกคนเสมอ การฝึกอังกฤษเราต้องพยายามใช้บ่อยๆ แรกๆอาจจะยากหน่อยแต่พอเริ่มได้ เริ่มเข้าใจแล้วมันจะเริ่มสนุกครับ
ภาษาอังกฤษพอเรารู้จักวิธีการสร้างประโยคแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือคำศัพท์ ยิ่งรู้ศัพท์เยอะยิ่งดี ผมเคยสงสัยว่าเวลาฟังฝรั่งเค้าพูดกันทำไมถึงฟังไม่รู้เรื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสำเนียงแต่อีกส่วนนึงที่ผมคิดว่าสำคัญกว่าคือคำศัพท์ครับ ผมพยายามหาคำศัพท์เพิ่มเติมให้ตัวเองทุกวันพอผมเริ่มรู้ศัพท์มากขึ้น ผมต้องแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ได้คือจากเมื่อก่อนฟังไม่รู้เรื่องเดี๋ยวนี้กลายเป็นเริ่มเข้าใจ หูกระดิก ตามองเห็นคำศัพท์ลอยเป็นคำๆออกมาจากพี่หรั่ง แหม่...แหล่มจริงๆ(ฮา)
วิธีการฝึกคำศัพท์ก็มีเยอะแยะครับ ไม่ว่าจะดูหนังซับอังกฤษ ฟังเพลงภาษาอังกฤษ อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ นิตยสารภาษาอังกฤษ นิทานภาษาอังกฤษ และก็อีกมากหมายหลายวิธี บางคนอาจดีหน่อยฝึกยังไงก็เป็น แต่บางคนฝึกยังไงก็ไม่เข้าหัวซักที ถ้าเป็นกรณีนี้ลองดูครับลองหาวิธีที่ตัวเองชอบที่สุดมาซักอย่าง แล้วฝึกแบบเน้นๆไปเลย เหมือนอย่างนิทานวันนี้ที่ผมเลือกมา เป็นเรื่องของเจ้าสุนัขจิ้งจอกกับเจ้าแมวที่คุยโม้โอ้อวดกันว่ายามมีภัยพวกเขามีวิธีการหนีเอาตัวรอดเจ๋งๆอย่างไร ส่วนวิธีการของใครจะได้ผลดีกว่ากันติดตามได้ในนิทานอังกฤษเรื่อง “The Fox And The Cat”


พื้นฐานที่ควรรู้ Present TensePast TenseFuture TensePassive Voice




ศัพท์อังกฤษ

Fox = สุนัขจิ้งจอก
Cat = แมว
Boast = คุยโม้
Clever = เฉลียวฉลาด
Device = อุบาย
Escape = หนี
Enemy = ศัตรู
Trick = เล่ห์เหลี่ยม, เทคนิค
Contain = บรรจุ
Generally = โดยทั่วไป
Manage = จัดการ, ทำให้สำเร็จ
Pack = ฝูง
Hound = สุนัขล่าเนื้อ
Immediately = ทันทีทันใด
Scamper up = รีบวิ่งก้าวถี่ๆ
Bough = กิ่งไม้
Plan = แผนการ
Debate = ใคร่ครวญ, ไตร่ตรอง
Confusion = ความสับสน
Caught up = ตามไล่ทัน, จับได้
Huntsmen = นายพราน
reckon = พิจารณา

แนะนำแอพจดศัพท์ท่องจำด้วยเกมส์ (Play Store)






The Fox And The Cat
Aesop’s Fable

A Fox was boasting to a Cat of its clever devices for escaping its enemies. "I have a whole bag of tricks," he said, "which contains a hundred ways of escaping my enemies." "I have only one," said the Cat; "but I can generally manage with that." 
Just at that moment they heard the cry of a pack of hounds coming towards them, and the Cat immediately scampered up a tree and hid herself in the boughs. "This is my plan," said the Cat. "What are you going to do?" The Fox thought first of one way, then of another, and while he was debating the hounds came nearer and nearer, and at last the Fox in his confusion was caught up by the hounds and soon killed by the huntsmen.


Moral of Aesops Fable: "Better one safe way than a hundred on which you cannot reckon."





แปลไทย
โดย Aonaen

เจ้าสุนัขจิ้งจอกคุยโม้ให้เจ้าแมวฟังว่ามันมีอุบายทีเฉลียวฉลาดในการหลบหนีศัตรู “ฉันมีเทคนิคเล่ห์เหลี่ยมอยู่เต็มกระเป๋า” สุนัขจิ้งจอกพูด “กระเป๋าที่บรรจุแนวทางการหลบหนีร้อยวิธี” “ฉันมีแค่วิธีเดียว” เจ้าแมวพูด “แต่ฉันมักจะหลบหนีสำเร็จได้ด้วยวิธีนั้น”
แค่เวลาไม่นานพวกมันก็ได้ยินเสียงฝูงหมาล่าเนื้อกำลังตรงเข้ามาแล้วเจ้าแมวก็รีบวิ่งขึ้นไปหลบบนต้นไม้และซ่อนตัวอยู่ในกิ่งไม้ “นี่แหล่ะคือวิธีของฉัน” เจ้าแมวพูด “แล้วนายจะหนียังไง?” สุนัขจิ้งจอกเริ่มคิดวิธีแรก จากนั้นก็คิดวิธีต่อมา ขณะที่มันกำลังคิดไตร่ตรองอยู่นั้น หมาล่าเนื้อก็ใกล้เข้ามา และใกล้เข้ามา เจ้าสุนัขจิ้งจอกสับสนจนท้ายที่สุดมันก็ถูกจับได้ และในไม่ช้าก็ถูกนายพรานปลิดชีวิต


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:  ความอุตสาหะอาจแบ่งให้กันได้แต่ไม่อาจแบ่งของให้กันได้เสมอไป