วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Future Tense คือ

Future Tense แปลว่า อนาคตกาล คือโครงสร้างของประโยคที่บ่งบอกถึงเวลาในอนาคต หรือสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในขณะที่พูด เช่นเดียวกันกับ Tense อื่นๆ Future Tense ก็ประกอบไปด้วย 4 สหายเช่นเดิมคือ พี่ซิม(Simple), พี่คอน(Continuous), พี่เพอ(Perfect) และพี่พอค(Perfect Continuous) โปรดเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับบทความนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปร่วมสร้างอนาคตด้วยกัน... ฮ่าๆๆๆ 

 *อ่านก่อนสร้างอนาคต 
     กรณีที่ 1: Will/Shall แปลว่า จะ
                    - Will ใช้กับประธานที่ถูกกล่าวถึง เช่น You, They, He, She, It
                    - Shall ใช้กับประธานที่ตัวเองเป็นคนพูด คือ I และ We
     กรณีที่ 2 : เมื่อ Will/Shall สลับประธาน
                    - Will ถ้าใช้กับประธานที่ตัวเองเป็นคนพูด คือ I และ We จะให้ความหมายเชิงให้คำมั่น
                      สัญญาหรือสิ่งที่พูดมีโอกาสเป็นไปได้สูง เช่น
                            I will love you forever.
                            (ผมจะรักคุณตลอดไป)    
                            I will go to school at six o’clock tomorrow.
                         (พรุ่งนี้ฉันจะไปโรงเรียนตอนหกโมงเช้า (ปกติไปเจ็ดโมง))
                    - Shall ถ้าใช้กับประธานที่ถูกกล่าวถึง เช่น You, They, He, She, It จะให้ความหมาย
                      เชิงคำสั่ง เช่น
                            You shall go out of my room.
                            (คุณควรจะออกไปจากห้องฉันได้แล้ว)






Future Simple Tense คือ อนาคตแบบธรรมดา
      โครงสร้างประโยค 
           ประธาน + will/shall + กริยาช่องที่ 1 + (กรรม)
           S + will/shall + V1 +(O)

      ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น
           I will go to play football tomorrow.
           (พรุ่งนี้ฉันจะไปเตะบอล(ให้ได้))
           I shall go to play football tomorrow.
           (พรุ่งนี้ฉันจะไปเตะบอล)
           He will go to play football tomorrow.
           (พรุ่งนี้เขาจะไปเตะบอล)
           He shall go to play football tomorrow.
           (พรุ่งนี้เขาควรจะไปเตะบอล)

      สามารถใช้ “to be going to” แทน will/shall ได้ดังนี้
           เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เช่น
                They are going to go to school tomorrow.
                (พรุ่งนี้พวกเขาจะไปโรงเรียน(แน่นอน))
           เหตุการณ์ที่ตั้งใจจะทำ เช่น
                 I am going to play football tomorrow.
                 (พรุ่งนี้ฉันจะไปเตะบอล)
           เหตุการณ์ที่เป็นการคาดคะเน เช่น
                 I think it is going to rain.
                 (ผมคิดว่าฝนคงจะตกแน่ๆ)


Future Continuous Tense คือ อนาคตแบบกระทำอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่งๆ
      โครงสร้างประโยค 
            ประธาน + will/shall+ be + กริยาเติม ing + (กรรม)
            S + will/shall + be + V(ing) +(O)

       ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต เช่น
            I will be working tomorrow.
            (วันพรุ่งนี้ฉันจะทำงาน (เห็นภาพลอยมาว่ากำลังนั่งทำงานอยู่))

       ใช้กับ2เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมๆกัน โดยใช้ร่วมกับ 
       Present Continuous Tense เช่น
            She will be sleeping while he is watching TV tonight.
            (คืนนี้เธอคงกำลังนอนหลับอยู่ขณะที่เขากำลังดูทีวี)
     
       ใช้กับ2เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ไม่พร้อมกัน โดยใช้ร่วมกับ 
       Present Simple Tense เช่น
            I will be reading a book when my father arrives at home.
            (ฉันจะอ่านหนังสือเมื่อคุณพ่อมาถึงบ้าน)


Future Perfect Tense คือ อนาคตที่เกิดก่อนอนาคต
       โครงสร้างประโยค 
            ประธาน + will/shall+ have + กริยาช่อง3 + (กรรม)
            S + will/shall + have + V3 +(O)

        ใช้กับ2เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน โดย Future Perfect Tense เกิดก่อน,
        Present Simple Tense เกิดทีหลัง เช่น
             The movie will have started when we reach the theatre.
             (หนังคงจะเริ่มฉายแล้วตอนที่เราไปถึง)


Future Perfect Continuous Tense คือ อนาคตที่กระทำอย่างต่อเนื่องก่อนอนาคตอีกเหตุการณ์หนึ่ง (คล้ายกับ Future Perfect Tense แต่ต่อเนื่อง)
       โครงสร้างประโยค 
             ประธาน + will/shall + have been + กริยาเติม ing + (กรรม)
             S + will/shall +have been + V(ing) +(O)

       ใช้กับ2เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน โดย Future Perfect Continuous Tense 
       เกิดก่อนอย่างต่อเนื่อง, Present Simple Tense เกิดทีหลัง เช่น
             He will have been cooking dinner for an hour when we reach his home.
             (เขาคงจะกำลังทำกับข้าวซักชั่วโมงนึงแล้วตอนที่เราไปถึงบ้านของเขา)


ก่อนจบ
     Feture Tense คือ อนาคตกาลเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นและไม่แน่นอน นอกเหนือจากโครงสร้างทั้ง 4 รูปแบบแล้ว ขอสรุปเกร็ดเล็กๆน้อยๆ ที่แทรกอยู่ในเนื้อหาทั้ง 3 ข้อดังนี้ 11
     1. ประธานคือผู้พูดใช้ Shall ถ้าประธานเป็นผู้ที่ถูกกล่าวถึงใช้ Will หากใช้สลับกันความหมายจะเปลี่ยน
     2. สามารถใช้ be going to แทน will ได้ในบางกรณี 3.
     3. Future Tense ไม่ว่าประธานจะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์จะใช้ have เท่านั้นไม่ใช้ has

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น